บ้านมีปัญหาความชื้น และเชื้อรา อย่าปล่อยผ่าน แก้ไขได้ ไม่ยาก อย่างที่คิด
เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ช่วงเวลาที่ฝนตกนั้น อาจจะมีส่งผลให้บ้านของคุณได้รับความชื้น และถ้าในตัวบ้านสะสมความชื้นเอาไว้มาก ๆ นอกจากจะส่งผลเสียต่อตัวบ้าน คือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในเนื้อวัสดุ ทำให้เกิดการสึกกร่อนของวัสดุ จนแตกร้าวได้แล้ว เชื้อราที่เกาะอยู่ตามผนังอาคารจะปล่อยสารพิษ Mycotoxin ออกมา ส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้าน ทำให้เจ็บป่วยได้โดยเฉพาะระบบทางเดินหายที่จะกระตุ้นให้โรคหอบหืดกำเริบได้ง่าย และยังทำให้เกิดสารก่อภูมิแพ้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา ไรฝุ่น เชื้อจุลินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะครับ บทความในวันนี้จึงอยากจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับความชื้น การป้องกัน และวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นกันเพื่อสุขภาพบ้านและสุขภาพกายที่ดีกันครับ
ความชื้นที่เหมาะสมในบ้านควรจะเป็นอย่างไร ในบ้านจำเป็นต้องความมีความชื้นอยู่ เพื่อให้เกิดความสบายตัว ผิวหนังไม่แห้งแตก หายใจได้สะดวก แต่ก็ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วความชื้นภายในอาคารควรอยู่ระหว่าง 20- 50% ซึ่งปกติสภาพอากาศในเมืองไทยโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนมักจะมีความชื้นเกินกว่า 50 % อยู่แล้วจึงมักทำให้เกิดปัญหากับตัวอาคาร
เราจะทราบได้อย่างไรว่าบ้านมีความชื้นมากไป ถ้าที่บ้านมีอุปกรณ์ตรวจวัดความชื้น ที่เรียกว่าไฮโกรมิเตอร์ แถบวัดความชื้น หรือไซโครมิเตอร์ ก็สามารถบอกค่าความชื้นได้ แต่เครื่องมือเหล่านี้ราคาค่อนข้างสูงตั้งแต่ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป บางบ้านอาจจะไม่สะดวกในการซื้อหามาติดตั้งก็ต้องลองสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบบ้านว่าเข้าข่ายลักษณะแบบนี้หรือไม่
- สังเกตสีทาผนัง ปูน หรือวอลล์เปเปอร์ ว่ามีการลอกล่อน มีรอยน้ำ ความอับชื้น หรือเชื้อราดำๆ หรือไม่
- มีเชื้อราเกิดขึ้นที่บริเวณฝ้าเพดาน
- เฟอร์นิเจอร์ พรม ไม้ปาเก้ปูพื้น มีร่องรอยบวมน้ำหรือเป็นรา
- สังเกตการรั่วซึมของน้ำที่พื้น รอยแตกของผนัง ขอบวงกบประตูหน้าต่าง
- มีหยดน้ำเกาะตามท่อน้ำ
- มีกลิ่นอับชื้น
ความชื้นมาจากช่องทางไหนได้บ้าง ความชื้นในบ้านและในอาคารมาได้จากหลายปัจจัย เช่น
- ความชื้นจากน้ำที่มาสัมผัสกับผนังโดยตรง เช่น ถูกฝนสาดเข้าผิวหน้าของผนังอาคาร
- เกิดจากการดูดซึมน้ำในดิน มักเกิดกับบ้านที่ไม่มีการระบายน้ำที่ดี หรือสร้างอยู่ในพื้นที่รับน้ำมาก่อน
- เกิดจากฝน ไหล รั่ว ซึมเข้าสู่อาคารจากรอยร้าวรั่วของผนังหรือหลังคา
- ความชื้นจากห้องน้ำ ซึ่งเป็นส่วนที่มีความชื้นมากที่สุดในบ้าน จึงต้องระวังการรั่วซึมที่จะทำให้ผนังห้องน้ำ ฝ้าเพดาน ประตู เสียหาย และอาจจะลามไปส่วนอื่น ๆ ได้
- รอยรั่วซึมจากระบบท่อประปา หรือท่อระบายน้ำต่างๆ ที่บกพร่องเสียหาย และไม่มีการระบายน้ำออกจากตัวบ้านลงสู่ท่อน้ำสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ
- เกิดจากน้ำท่วมขังจากภัยธรรมชาติ
- การระบายอากาศทำได้ไม่ดีพอ เนื่องจากไม่มีช่องลมในขนาดและจำนวนที่เหมาะสม มักเกิดกับห้องชุดหรือทาวน์เฮาส์ที่ไม่สะดวกเปิดหน้าต่าง อากาศจึงถ่ายเทได้ไม่เต็มที่
- ช่องแสงในบ้านมีไม่เพียงพอ การติดตั้งช่องแสงขนาดเล็กในทิศทางอับแสงและมีจำนวนน้อย ทำให้บ้านการระบายความชื้นทำได้ยาก
ป้องกันและแก้ไขบ้านจากความชื้นได้อย่างไร
การป้องกันความชื้นอาจจะทำไม่ได้เนื่องจากได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของบ้าน ร่องรอยการชำรุด แล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมแก้ไข แต่โดยหลัก ๆ แล้วการแก้ไขปัญหาความชื้นของบ้านจะมีจุดสำคัญหลัก ๆ เช่น
- เพิ่มขนาดช่องแสงและช่องลม เพื่อให้แสงจากธรรมชาติและลมเข้ามาช่วยระบายความชื้นออกจากตัวบ้าน
- ใช้พัดลมช่วยระบายในพื้นที่มีความชื้น เช่น ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องใต้ดิน
- ไม่เพิ่มความชื้นในตัวบ้าน เช่น การล้างจานแล้วทิ้งน้ำลงรอบๆ ตัวบ้าน การใช้ผ้าชุบน้ำเปียกๆ ถูพื้น โดยเฉพาะในพื้นปูนขัดมันจะดูดซับความชื้นได้ดี ให้ลองเปลี่ยนมาเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแทน
- อุดปิดรอยรั่วซึมของน้ำตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน เช่น ผนัง กำแพง ฝ้าเพดาน ท่อประปา ห้องน้ำ ท่อแอร์
- ติดกันสาดบริเวณประตูหน้าต่างในจุดที่ฝนอาจจะสาดถูกตัวบ้าน
- ติดตั้งเครื่องซักผ้านอกตัวบ้าน หรือติดในจุดที่มีช่องระบายน้ำ ระบายอากาศได้ดี
- หากมีเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ที่เป็นไม้อัด ปาร์ติเกิ้ล หรือเส้นใยอย่าง พรม หมอน หรือที่นอน ให้นำออกไปตากแดดจัดๆ เป็นเวลา 3-5 วัน แต่ถ้าเกินเยียวยาก็จำเป็นต้องทิ้ง
- จัดการระบบระบายน้ำในบ้าน ไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณรอบๆ ตัวบ้าน
- ตัดต้นไม้ใหญ่ที่กีดขวางทิศทางของแสงแดดที่จะเข้ามาไล่ความชื้นออกจากตัวบ้าน
- ติดเครื่องกรองอากาศหรือเครื่องดูดความชื้นในตัวบ้าน
คุณเจ้าของบ้านก็ลองสำรวจบ้านกันดูนะครับว่า ที่บ้านของเรามีร่องรอยความชื้นที่สร้างความเสียหายให้บ้านบ้างไหม ถ้ามีก็ควรจะรีบแก้ไขกันนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย
หากคุณกำลังมองหา ช่างสีมืออาชีพ ที่จะทำให้บ้านคุณสวยงามกว่าใคร มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ไม่ทิ้งงาน ติดต่อเรามาได้ทันที
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call center : 02-815-5001 (ปรึกษาเราฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย)
Line Official : @wowdecor หรือ คลิกเพิ่มเพื่อน
Facebook : WowDecor บริการรับทาสีบ้าน คอนโด